นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(สำหรับผู้สมัครงาน ตัวแทน/นายหน้า และ/หรือคู่ค้าของบริษัท)
บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด

บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบ ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) มีวัตถุประสงค์ที่จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลได้ทราบดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่บริษัทและกลุ่มบริษัทจะมีการเก็บรวบรวม
  2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร
  3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากบริษัท
  5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
  7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
  8. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
  9. การประมวลผลเพื่อการดำเนินการส่งเสริมการขาย
  10. ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่บริษัทและกลุ่มบริษัทจะมีการเก็บรวบรวม
    บริษัทอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 26 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“คณะกรรมการ”) กำหนด ซึ่งรวมถึง
    1. กรณีที่เจ้าของข้อมูลดำเนินการในนามของตนเอง
      (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือรายละเอียดการติดต่ออื่นๆ เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/บัตรประจำตัวประชาชน
      (ข) ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของเจ้าของข้อมูล อาทิ คุณวุฒิการศึกษาจากโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย รวมถึง หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิงจากสถาบันการศึกษา
      (ค) ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงานของเจ้าของข้อมูล ตัวอย่างเช่น ประวัติส่วนตัว ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ
      (ง) รายละเอียดการทำงานพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น รายละเอียดสถานที่ทำงานของเจ้าของข้อมูล หมายเลขใบอนุญาต นายหน้าประกันวินาศภัย/ประกันชีวิต ใบอนุญาตหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงคุณวุฒิ หรือคุณสมบัติ รายละเอียดหน่วยงานต้นสังกัด ตำแหน่ง สายการบังคับบัญชา และ ข้อตกลงและ เงื่อนไขของการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย/ประกันชีวิต
      (จ) ประวัติเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึง การประเมินผลการปฏิบัติงาน รางวัลที่เคยได้รับ ประวัติการถูกร้องเรียน บันทึกการสอบสวน การถูกพักสัญญานายหน้าประกันวินาศภัย/ประกันชีวิต การถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตหรือหลักฐานแสดงคุณวุฒิหรือคุณสมบัติ และโทษทางวินัย รวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
      (ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน ตัวอย่างเช่น รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ และ/หรือผลประโยชน์อื่นๆ ที่เจ้าของข้อมูลได้รับ เลขบัญชีธนาคาร กองทุนประกันสังคม ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้ได้รับผลประโยชน์
    2. กรณีที่เจ้าของข้อมูลดำเนินการแทนหรือเพื่อนิติบุคคลของเจ้าของข้อมูล
      กรณีที่คู่สัญญาของบริษัทเป็นนิติบุคคล บริษัทอาจประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในฐานะที่เจ้าของข้อมูลเป็นพนักงาน ผู้รับจ้าง หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลของเจ้าของข้อมูล
      (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล เลขที่หนังสือเดินทางหรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน
      (ข) ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือรับรองบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลอื่นใดที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
      (ค) ประวัติเกี่ยวกับการล้มละลาย การฟอกเงิน หรือ การให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย
      (ง) ข้อมูลอื่นใดที่บริษัทร้องขอจากนิติบุคคลของเจ้าของข้อมูล หรือ จากเจ้าของข้อมูล เพื่อใช้ในการประกอบการเข้าทำสัญญา การบริการ หรือ การดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ตามที่บริษัทได้แจ้งหรือร้องขอไปยังเจ้าของข้อมูล
      นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุข้างต้น บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ของเจ้าของข้อมูล เช่น ประวัติอาชญากรรม เพื่อประกอบการตรวจสอบในการเข้าทำสัญญากับบริษัท เช่น ตรวจสอบเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย เป็นต้น
      ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่นแก่บริษัท เจ้าของข้อมูลรับทราบ และรับรองว่าได้นำส่งสำเนานโยบายนี้แก่บุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นๆ แล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท
  2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร
    โดยทั่วไปบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล เว้นแต่บางกรณีที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจากบุคคลอื่นที่แนะนำเจ้าของข้อมูล ให้บริษัทหรือบุคคลอื่นที่เจ้าของข้อมูลแจ้งให้บริษัททราบ จากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเจ้าของข้อมูล หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า และหากไม่เป็นอุปสรรคและไม่เป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์ในการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในการบริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการได้รับและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ รวมไปถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ เมื่อบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว
  3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
    1. บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อการเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูล และเพื่อการปฏิบัติตามสิทธิหน้าที่ๆ มีตามสัญญาที่บริษัทเข้าทำกับเจ้าของข้อมูล
    2. เพื่อการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูล
    3. เพื่อการตรวจสอบประวัติก่อนและระหว่างเข้าทำสัญญา และอาจมีการตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าว ระหว่างระยะเวลาตามสัญญา
    4. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะประกาศ ระเบียบ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย ของหน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ)และ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    5. เพื่อการก่อตั้ง ใช้ โต้แย้ง หรือ ดำเนินการตามสิทธิเรียกร้องของบริษัท
    6. เพื่อการติดต่อ และการดำเนินธุรกิจของบริษัทตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์ กับเจ้าของข้อมูล
    7. อนึ่ง วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยในข้อ 3. รวมถึงวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้:
      1. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
      2. เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
      3. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัท
      4. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
      5. เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
      6. มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
  4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากบริษัทและกลุ่มบริษัท
    บริษัทอาจมีการเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลดังต่อไปนี้ โดยที่บุคคลดังกล่าวอาจอยู่ในประเทศไทย หรือ นอกประเทศไทยก็ได้
    1. สมาชิกใดๆ ของบริษัท
    2. นายหน้าประกันภัยของ กำหนด หรือตามที่มีการร้องขอให้เปิดเผยเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท หรือเปิดเผยเพื่อประโยชน์สาธารณะ
    3. ผู้รับโอนหรือ ผู้สืบสิทธิในส่วนใดๆ ของบริษัท เนื่องจากการซื้อหรือขายที่เกิดขึ้นจริง หรือการเสนอซื้อหรือขายบริษัท ทั้งหมดหรือบางส่วน
    4. บุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
  5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บ เพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่เจ้าของข้อมูลสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต
    บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูล ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
  6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
    เจ้าของข้อมูลมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ดังต่อไปนี้
    1. เพิกถอน หรือ ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของเจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้กับบริษัท
    2. ตรวจสอบว่าบริษัทมีข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลหรือไม่ ตลอดจนสิทธิในการเข้าถึง หรือขอรับสำเนาของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และ/หรือเข้าถึงข้อมูลว่าบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร รวมถึงสิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม
    3. ขอให้บริษัททำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลให้ถูกต้อง
    4. ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในบางสถานการณ์
    5. ขอให้จำกัดคัดค้านการดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในบางสถานการณ์
    6. ขอให้บริษัทและกลุ่มบริษัทโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในบางสถานการณ์
    7. ขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นการชั่วคราวในบางสถานการณ์
    ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือระยะเวลาอันสมควร เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยบริษัทอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต
    นอกจากนั้น เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามขั้นตอนที่กำหนดใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    ช่องทางการขอใช้สิทธิ
    เจ้าของข้อมูลสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ตามช่องทางด้านล่าง
    บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด
    126/5 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
    0-2881-1888 วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30 น. – 17.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์)
    Website : www.ancbroker.com
    E-mail address : PDPA@ancbroker.com
    อย่างไรก็ดี หากปรากฏอย่างชัดเจนว่าคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลเป็นคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล หรือ คำร้องขอฟุ่มเฟือยเท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอนุญาต บริษัทและกลุ่มบริษัทอาจมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้น เท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอนุญาต
    Download แบบฟอร์ม แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล : Download
  7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
    บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทจะแจ้งการแก้ไข การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้เจ้าของข้อมูลทราบหากการแก้ไขปรับปรุงนโยบายนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ การแจ้งนั้นสามารถทำได้ทางอีเมล หรือวิธีการสื่อสารทั่วไปวิธีอื่นๆ และหากจำเป็น บริษัทอาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
  8. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
    หากเจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใดๆ ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล กรุณาติดต่อบริษัทที่ช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้น
  9. การประมวลผลเพื่อการดำเนินการส่งเสริมการขาย
    เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่เจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทจำต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ (ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่) และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ดังระบุในนโยบายฉบับนี้ เพื่อใช้ในการดำเนินการ ส่งเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท คำแนะนำและข้อมูลในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงการประกัน การลงทุน การธนาคาร บริการทางการเงิน การรักษาทางการแพทย์/การรักษาเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การจ้างงาน การฝึกอบรม โปรแกรมให้รางวัล/ให้ผลประโยชน์สำหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์/ให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล/กิจกรรมที่ไม่หวังผล และ การจัดกิจกรรมทางการตลาด การประกวด จับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่างๆ ซึ่งเจ้าของข้อมูลเลือกที่จะเข้าร่วม
    โดยในการดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของบริษัท เพื่อการดำเนินการใดๆ เพื่อให้บริษัท บรรลุวัตถุประสงค์นี้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้
    เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการถอนความยินยอมเกี่ยวกับการประมวลผลเพื่อการส่งเสริมการขายได้ตลอด โดยผ่านช่องทางการติดต่อดังระบุในนโยบายฉบับนี้ หรือกดปุ่ม unsubscribe ในอีเมล หรือ SMS ที่เจ้าของข้อมูลอาจได้รับ
  10. ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
    เนื่องจากบริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ประวัติอาชญากรรม ของเจ้าของข้อมูล เพื่อประกอบการตรวจสอบก่อนเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูล โดยหากบริษัทไม่ดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว บริษัทจะไม่สามารถเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ ตามกฎหมาย ตามนโยบายของบริษัท โดยบริษัท จะดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นและสมควรเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
    นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องนำข้อมูลตามข้อนี้ไปเพื่อการเสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการบางประเภทของบริษัท จึงจำต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว หากเจ้าของข้อมูลไม่ยินยอมให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะไม่สามารถให้ผลิตภัณฑ์ และให้บริการใดๆ แก่เจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้